Japan Hokkaido

6 วัน 4 คืน
Category:
  • Japan-Hokkaido-2020-08
  • Japan-Hokkaido-2020-10
  • Japan-Hokkaido-2020-11
  • Japan-Hokkaido-2020-12
  • Japan-Hokkaido-2020-13
  • Japan-Hokkaido-2020-14
  • Japan-Hokkaido-2020-15
  • Japan-Hokkaido-2020-16
  • Japan-Hokkaido-2020-09
  • Japan-Hokkaido-2020-02
  • Japan-Hokkaido-2020-03
  • Japan-Hokkaido-2020-04
  • Japan-Hokkaido-2020-05
  • Japan-Hokkaido-2020-06
  • Japan-Hokkaido-2020-07
DEPARTURE/RETURN LOCATION สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออก (อาคาร1) ชั้น 3 ประตูทางเข้าหมายเลข 2 เคาน์เตอร์ 2 สายการบิน AIR ASIA X
DEPARTURE TIME โปรดถึงเค้าเตอร์สนามบินก่อน 2 ชม. การเดินทาง
อัตรานี้รวม
ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ
ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 30 กก.
ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่าน
ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการ
ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ
ค่ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการตลอดการเดินทาง
ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
อัตรานี้ไม่รวม
ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น (เพราะรัฐบาลประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน) **ถ้ากรณีที่ทางรัฐบาลประกาศให้กลับมาใช้วีซ่า ผู้เดินทางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่าเพิ่ม ท่านละ 1,700 บาท**
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ (กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
ค่าทิปคนขับรถ และไกด์นำเที่ยวท่านละ 4500 เยน/ทริป/ต่อท่าน
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

อัตราค่าบริการ

 

กำหนดการเดินทาง

 

ผู้ใหญ่

ห้องละ

2-3 ท่าน

1 เด็ก 2 ผู้ใหญ่

เด็กมีเตียง

(ต่ำกว่า 12 ปี)

1 เด็ก 2 ผู้ใหญ่

เด็กไม่มีเตียง

(ต่ำกว่า 12 ปี)

พักเดี่ยวเพิ่ม ราคาทัวร์

ไม่รวมตั๋ว

เครื่องบิน

10 – 15 มกราคม 2563 39,999 37,999 36,999 10,000 25,999
17 – 22 มกราคม 2563 40,999 38,999 37,999 10,000 26,999
22 – 27 มกราคม 2563 40,999 38,999 37,999 10,000 26,999
28 ก.พ. – 04 มี.ค. 2563 40,999 38,999 37,999 10,000 26,999

** บริการน้ำดื่มวันละ 1 ขวดในวันที่มีรายการท่องเที่ยว**

** ราคาเด็กอายุไม่ถึง 2 ขวบ 10,000 บาท **

***ค่าบริการข้างต้น ยังไม่รวมค่าทิปคนขับรถ และไกด์นำเที่ยวท่านละ 4500 เยน /ทริป/ต่อท่าน***

การเดินทางในแต่ละครั้งจะต้องมีผู้โดยสารจำนวน 30 ท่านขึ้นไป ถ้าผู้โดยสารไม่ครบจำนวนดังกล่าว บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อนการเดินทาง หรือเปลี่ยนแปลงราคา

ในกรณียกเลิกการเดินทาง ต้องยกเลิก 30 วันก่อนการเดินทางเท่านั้น ไม่เช่นนั้นทางบริษัทจะไม่คืนมัดจำไม่ว่าด้วยกรณีใดๆทั้งสิ้น เพราะว่าทางบริษัทได้ทำการจ่ายค่าตั๋วไปให้กับการสายการบินเรียบร้อยแล้ว โปรดอ่านข้อความให้ถี่ถ้วนก่อนการจองทัวร์ทุกครั้ง เพื่อประโยชน์แก่ตัวท่านเอง

กรุณาชำระมัดจำ ท่านละ 10,000.- บาท หากมีการยกเลิกภายหลัง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนมัดจำทั้งหมด เนื่องจากทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าตั๋วเครื่องบินเต็มใบให้กับสายการบินเป็นที่เรียบร้อย ยกเว้นค่าภาษีน้ำมันที่ยังมิได้ชำระ ค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ กรุณาชำระ 21 วันก่อนการเดินทาง

หมายเหตุ

  1. ตั๋วเมื่อออกแล้ว ไม่สามารถรีฟันด์ได้ อันเนื่องจากเงื่อนไขของสายการบิน
  2. ค่าทัวร์ไม่มีราคาเด็ก เนื่องจากเป็นราคาโปรโมชั่น

จากมาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ หรือธุรกิจ จะต้องยื่นเอกสารในขั้นตอนการตรวจเข้าเมือง เพื่อยืนยันการมีคุณสมบัติการเข้าประเทศญี่ปุ่น* ดังต่อไปนี้

  1. ตั๋วเครื่องบินขาออกจากประเทศญี่ปุ่น ทางทัวร์จัดเตรียมให้
  2. สิ่งที่ยืนยันว่าท่านสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่นได้ (เช่น เงินสด บัตรเครดิต)
  3. ชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขติดต่อในระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น (เช่น คนรู้จัก โรงแรม และอื่นๆ) ทางทัวร์จัดเตรียมให้
  4. กำหนดการเดินทางระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น ทางทัวร์จัดเตรียมให้

เงื่อนไขการชำระค่าบริการ

  1. นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องชำระเงินมัดจำเป็นเงินจำนวน 10,000 บาทต่อท่านเพื่อสำรองที่นั่ง
  2. นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องชำระเงินค่าบริการส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 21 วัน กรณีนักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ไม่ชำระเงิน หรือชำระเงินไม่ครบภายในกำหนด รวมถึงกรณีเช็คของท่านถูกปฏิเสธการจ่ายเงินไม่ว่ากรณีใดๆ ให้ถือว่านักท่องเที่ยวสละสิทธิการเดินทางในทัวร์นั้นๆ
  3. การติดต่อใดๆ กับทางบริษัทเช่น แฟกซ์ อีเมลล์ หรือจดหมายฯ ต้องทำในวันเวลาทำการของทางบริษัท ดังนี้ วันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 9.00 น. – 18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 9.00 น. – 14.00 น. นอกจากวันเวลาดังกล่าวและวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศในปีนั้นๆถือว่าเป็นวันหยุดทำการของทางบริษัท

เงื่อนไขการยกเลิกการเดินทาง

  1. กรณีที่นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องการขอยกเลิกการเดินทาง หรือเลื่อนการเดินทาง นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่(ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการยกเลิกที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแจ้งยกเลิกการจองกับทางบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร ทางบริษัทไม่รับยกเลิกการจองผ่านทางโทรศัพท์ไม่ว่ากรณีใดๆ
  2. กรณีนักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องการขอรับเงินค่าบริการคืน นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการขอรับเงินคืนที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อทำเรื่องขอรับเงินค่าบริการคืน โดยแนบหนังสือมอบอำนาจพร้อมหลักฐานประกอบการมอบอำนาจ หลักฐานการชำระเงินค่าบริการต่างๆ และหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้นำเงินเข้าให้ครบถ้วน โดยมีเงื่อนไขการคืนเงินค่าบริการดังนี้
  • ยกเลิกก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า30 วัน คืนเงินค่าบริการร้อยละ 100 ของค่าบริการที่ชำระแล้ว ***ในกรณีที่วันเดินทางตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ ต้องยกเลิกการเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน
  • ยกเลิกก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า15 วัน คืนเงินค่าบริการร้อยละ 50 ของค่าบริการที่ชำระแล้ว
  • ยกเลิกก่อนวันเดินทางน้อยกว่า15 วัน ไม่คืนเงินค่าบริการที่ชำระแล้วทั้งหมด

ทั้งนี้ ทางบริษัทจะหักค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายจริงจากค่าบริการที่ชำระแล้วเนื่องในการเตรียมการจัดการนำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น การสำรองที่นั่งตั๋วเครื่องบิน การจองที่พักฯลฯ

  1. การเดินทางที่ต้องการันตีมัดจำหรือซื้อขาดแบบมีเงื่อนไข หรือเที่ยวบินเหมาลำ Charter Flight หรือ Extra Flight กับสายการบิน หรือผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศ จะไม่มีการคืนเงินมัดจำหรือค่าบริการทั้งหมด
  2. การติดต่อใดๆ กับทางบริษัทเช่น แฟกซ์ อีเมลล์ หรือจดหมายฯ ต้องทำในวันเวลาทำการของทางบริษัท ดังนี้ วันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 00 น. – 18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 9.00 น. – 14.00 น. นอกจากวันเวลาดังกล่าวและวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศในปีนั้นๆถือว่าเป็นวันหยุดทำการของทางบริษัท
  3. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางกรณีมีนักท่องเที่ยวเดินทางไม่ถึง 15 คน

เงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นๆ

  1. ทัวร์นี้สำหรับผู้มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น
  2. ทัวร์นี้เป็นทัวร์แบบเหมา หากท่านไม่ได้ร่วมเดินทางหรือใช้บริการตามที่ระบุไว้ในรายการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด หรือถูกปฏิเสธการเข้า-ออกเมืองด้วยเหตุผลใดๆ ทางบริษัทจะไม่คืนเงินค่าบริการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่าน
  3. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวร่วมเดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้กับนักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนการเดินทางสำหรับประเทศที่ไม่มีวีซ่า และอย่างน้อย 10 วันก่อนการเดินทางสำหรับประเทศที่มีวีซ่า  แต่หากทางนักท่องเที่ยวทุกท่านยินดีที่จะชำระค่าบริการเพิ่มจากการที่มีนักท่องเที่ยวร่วมเดินทางน้อยกว่าที่ทางบริษัทกำหนดเพื่อให้คณะเดินทางได้  ทางเรายินดีที่จะให้บริการต่อไป
  4. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายจากความผิดพลาดในการสะกดชื่อ นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เลขที่หนังสือเดินทาง และอื่นๆ เพื่อใช้ในการจองตั๋วเครื่องบิน ในกรณีที่นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่มิได้ส่งหน้าหนังสือเดินทางให้กับทางบริษัทพร้อมการชำระเงินมัดจำ
  5. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการการเดินทางตามความเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ภูมิอากาศ และเวลา ณ วันที่เดินทางจริงของประเทศที่เดินทาง ทั้งนี้ บริษัทจะคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นสำคัญ
  6. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่มิได้เกิดจากความผิดของทางบริษัท เช่น ภัยธรรมชาติ การจลาจล การนัดหยุดงาน การปฏิวัติ อุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย ความสูญหายหรือเสียหายของสัมภาระ ความล่าช้า เปลี่ยนแปลง หรือการบริการของสายการบิน เหตุสุดวิสัยอื่น เป็นต้น
  7. อัตราค่าบริการนี้คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ทางบริษัทเสนอราคา ดังนั้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคาค่าบริการเพิ่มขึ้น ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าภาษีเชื้อเพลิง ค่าประกันภัยสายการบิน การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินฯลฯ
  8. มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้นแต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น

ข้อแนะนำก่อนการเดินทาง

  1. กรุณาแยกของเหลว เจล สเปรย์ ที่จะนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ต้องมีขนาดบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 100 มิลลิลิตรต่อชิ้น และรวมกันทุกชิ้นไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร โดยแยกใส่ถุงพลาสติกใสซึ่งมีซิปล็อคปิดสนิท และสามารถนำออกมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจได้อย่างสะดวก ณ จุดเอ็กซ์เรย์ อนุญาตให้ถือได้ท่านละ 1 ใบเท่านั้น ถ้าสิ่งของดังกล่าวมีขนาดบรรจุภัณฑ์มากกว่าที่กำหนดจะต้องใส่กระเป๋าใบใหญ่และฝากเจ้าหน้าที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินเท่านั้น
  2. สิ่งของที่มีลักษณะคล้ายกับอาวุธ เช่น กรรไกรตัดเล็บ มีดพก แหนบ อุปกรณ์กีฬาฯ จะต้องใส่กระเป๋าใบใหญ่และฝากเจ้าหน้าที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินเท่านั้น
  3. ประเทศญี่ปุ่น มีกฎหมายห้ามนำผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพืช และเนื้อสัตว์ทุกชนิดเข้าประเทศ เช่น ผัก ผลไม้สด ไข่ เนื้อสัตว์ ไส้กรอกฯ เพื่อเป็นการป้องกันโรคติดต่อที่จะมาจากสิ่งเหล่านี้ หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จะต้องเสียค่าปรับในอัตราที่สูงมาก

 

วันแรก           กรุงเทพ ฯ – สนามบินสุวรรณภูมิ

20.30 น.         พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูหมายเลข 2 สายการบินไทย เคาน์เตอร์ D เพื่อเตรียมตัวเดินทาง และผ่านขั้นตอนการเช็คอิน

23.55 น.         เดินทางสู่ สนามบินชิโตเซะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ TG 670 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

วันที่สอง         ชิโตเสะ – เมืองโนโบริเบทสึ – หุบเขานรกจิโกกุดานิ – นั่งกระเช้าชมวิวภูเขาไฟอุสุซาน – สวนหมีโชวะชินซัง   – ศาลาประชาคมเก่าของฮาโกดาเตะ – เมืองฮาโกดาเตะ –  โบสถ์คาทอลิกแทรพพิซไทน์

08.20 น.        เดินทางถึง สนามบินชิโตเสะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศญี่ปุ่นแล้ว นำท่านเดินทางสู่ โนโบริเบทสึ เมืองที่เป็นเมืองตากอากาศชื่อดังแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงด้านออนเซ็น เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับไปพักค้างคืนและเข้าออนเซ็นเป็นอย่างยิ่ง นำท่านชม หุบเขานรกจิโกกุดานิ เกิดจากภูเขาไฟที่ยังไม่ดับก่อให้เกิดน้ำพุร้อนและบ่อโคลนเดือดเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าชม

จากนั้นนำทุกท่าน นั่งกระเช้าไฟฟ้าสู่ภูเขาไฟอุสุซาน (Usuzan) เป็นภูเขาไฟที่ทำให้เกิดทะเลสาบโทยะขึ้นมา จากหลักฐานพบว่า ภูเขาไฟลูกนี้มีการปะทุขึ้นมาทุกๆ 20-50 ปี ดังนั้นจึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของพื้นที่แถบนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการปะทุไปเมื่อปี พ.ศ. 2543 บนยอดเขาจะเห็นปากปล่องภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นมีควันสีขาวลอยขึ้นมาตลอดเวลา (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ภูเขาไฟอุสุแห่งนี้ มีความสูง 737 เมตร เมื่อขึ้นกระเช้าขึ้นสู่ยอดแล้วจะมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาอุสุ โอะกะริยะมะ โคะอุสุ และกินนุมะ คะโคะ ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการปะทุของภูเขา

จากนั้นนำท่านสู่ สวนหมีโชวะชินซัง ตั้งอยุ่ใกล้กับสถานีกระเช้าภูเขาไฟอุสุ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาล ให้ท่านอิสระเดินเที่ยวชมในสวนหมีเพื่อชมความน่ารักฉลาดแสนรู้ของหมีสีน้ำตาลนับ 100 ตัว ที่ใกล้สูญพันธุ์และหาดูได้ยาก ในญี่ปุ่นนี้จะพบเฉพาะบนเกาะฮอกไกโดเท่านั้น ชาวไอนุเชื่อกันว่าหมีสีน้ำตาลนี่ถือเป็นสัตว์เทพเจ้าของพวกเขาอีกด้วย ส่วนท่านไหนที่ต้องการชมแบบใกล้ชิดสามารถชมผ่านกระจกใสได้ หากยังไม่จุใจสามารถเดินมายังโซนห้องสังเหตุการณ์พิเศษได้อีกด้วย ซึ่งเรียกว่า “กรงมนุษย์” ท่านจะได้เห็นหมีสีน้ำตาลเดินผ่านไปมา ได้ยินเสียงและได้กลิ่นของหมีผาสนรุระบายอากาศเล็กๆ ประหนึ่งว่าได้อยู่ใกล้กับหมีระยะประชิด ที่สวนหมีนี้มีความพิเศษตรงที่ท่านสามารถป้อนอาหารหมีทั้งหลายเหล่านี้ด้วยขนมปัง และแอปเปิ้ล ซึ่งมีจุดจำหน่ายบริการไว้บริเวณทางเข้าและด้านใน

เที่ยง              บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ท่านเดินทางสู่ เมืองฮาโกดาเตะ(Hakodate) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคฮอกไกโด ตั้งอยู่ปลายสุดทางตอนใต้ของเกาะ มีชื่อเสียงด้านทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาฮาโกดาเตะ และอาหารทะเลสดใหม่ในอดีตเป็นเมืองหนึ่งที่มีท่าเรือสำหรับเปิดการค้าระหว่างประเทศในช่วงหลังจากยุคแยกประเทศ เมืองฮาโกดาเตะจึงได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก

นำท่านเดินชมบริเวณด้านนอก ศาลาประชาคมเก่าของฮาโกดาเตะ ซึ่งอาคารแห่งนี้มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในฮาโกดาเตะ ที่ถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ที่นี่มีหอประชุมใหญ่ตระการตาและห้องต่างๆ ที่สงวนไว้สำหรับแขกพิเศษ สมาชิกราชวงศ์ของญี่ปุ่นเคยเข้าพักในห้องเหล่านี้มาแล้ว เมื่อคราวเสด็จมาเยือนฮาโกดาเตะ (ไม่รวมค่าเข้าชมท่านละ 300 เยน)

จากนั้นนำท่านชม โบสถ์คาทอลิกแทรพพิซไทน์ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1898 โดยแม่ชีทั้ง 8 คนที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนา ต่อมาในปี 1925 โบสถ์แห่งนี้ได้ถูกไฟไหม้และหลังจากนั้นอีก 2 ปีก็ได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ ตัวตึกเป็นอาคารที่สร้างจากอิฐแดงทั้งหลังรูปทรงคล้ายกับปราสาทของยุโรป เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสค์และโกธิคผสมผสานกัน ที่โบสถ์แห่งนี้สามารถเที่ยวชมได้เฉพาะภายนอกเท่านั้น ไม่อนุญาตให้เข้าชมภายในโบสถ์ ด้านในมีแม่ชีอยู่ประมาณ 60 คน และที่นี่จะมีพิพิธภัณฑ์และร้านขายของที่ระลึกเล็กๆตั้งอยู่ ขนมคุ้กกี้ของที่นี่รสชาติอร่อยมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก อบโดยเหล่าแม่ชีที่อยู่ประจำในโบสถ์แห่งนี้ นอกจากคุ้กกี้แล้วก็ยังมีของระลึกอย่างไม้กางเขนให้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย

ที่พัก              โรงแรม HAKODATE YUNOKAWA KANKO SYOEN ONSEN HOTEL  หรือระดับเดียวกัน

ค่ำ                 บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม  หลังอาหารให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น

วันที่สาม         ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ – สวนสาธารณะโกเรียวคาคุ – โกดังอิฐแดงริมน้ำ – เมืองโทยะ –  ทะเลสาบโทย

เช้า                บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านสัมผัสวิถี ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ นับเป็นตลอกช่วงเช้าที่บรรยากาศแสนจะคึกคักของเมืองฮาโกดาเตะ เรียกได้ว่าถ้าอยากหามื้อเช้าเด็ดๆหรืออยากมาสัมผัสวิถีชีวิตยามเช้าของชาวเมืองนี่ต้องไม่พลาดเลย เพราะภายในตลาดนั้นเต็มไปด้วยร้านขายอาหารทะเลสด ไม่ว่าจะเป็น ปูคานิ ไข่ปลาแซลม่อน และหอยเม่นทะเล หรือจะเป็นผลไม้ต่างๆก็มีให้เลือกช็อปเลือกชิมกันอย่างเพียบ แล้วถ้าอยากหาร้านอาหารมาฝากท้องก็บริเวณใกล้ๆกันยังมีร้านอาหารเปิดกันแต่เช้าให้เข้าไปแวะเติมพลังกันได้ โดยเมนู่ที่ฮอตฮิตต้องลองเมื่อมาเยือนถึงถิ่นแหล่งกำเนิดของวัตถุดิบชั้นเลิศก็คือ  Uni-Ikura Domburi ซึ่งเป็นข้าวเสิร์ฟพร้อมหอยเม่นทะเลสดๆหวานๆและไข่ปลาแซลม่อน รับรองเลยว่าได้ชิมจะฟินไปอีกนาน โดยตลอกแห่งนี้นั้นจะมีพื้นที่ประมาณ 4 ช่วงตึก เปิดเปิดเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่ตอนเช้าตีห้าถึงเที่ยงตรง

จากนั้นนำท่านชม สวนสาธารณะโกเรียวคาคุ ที่ได้รับเลือกให้เป็นแหล่งประวัติศาสตร์แห่งชาติ ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินชมทัศนียภาพอันสวยงามได้ตลอดสี่ฤดู: ชมซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ, พฤกษาเขียวขจีในฤดูร้อน, ไม้ผลัดใบในฤดูใบไม้ร่วงและหิมะในฤดูหนาว ชั้นจุดชมวิวที่ติดกับหอคอยโกเรียวคาคุเป็นจุดชมวิวมุมกว้างขวางที่สามารถมองเห็นป้อมปราการรูปดาวขนาดมหึมา (สะพานข้ามเข้าไปในพื้นที่รูปดาวเปิด 09.00-19.00 ไม่รวมค่าขึ้นหอคอยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 900 เยน)

เที่ยง             บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โกดังอิฐแดงริมน้ำ ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำของอ่าวฮาโกดาเตะ ในเมืองฮาโกดาเตะของฮอกไกโดโกดังอิฐแดงของที่นี่นั้นเรียกได้ว่าศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานบันเทิงที่ให้บรรยากาศเก่าๆ ด้วยสิ่งก่อสร้างที่ดูคลาสสิกที่แม้จะดูเก่าแก่แต่ก็มีคลาสในเวลาเดียวกัน โดยเดิมทีที่นี่เคยเป็นคลังสินค้าอิฐสีแดงที่เคยใช้ค้าขายในปลายสมัยเอโดะ ภายหลังจากที่ไม่ได้ใช้งานเป็นคลังสินค้าอีกต่อไปแล้ว    

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองโทยะเพื่อชม จุดชมวิวทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) เป็นจุดชมวิวทะเลสาบโทยะ แบบพาโนราม่า และยังสามารถมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่ที่อยู่รายรอบ ทะเลสาบโทยะเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูป

วงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบชิโกสึ

ที่พัก              โรงแรม TOYA ONSEN HOTEL HANABI หรือ NISEKO GRAND HOTEL  หรือระดับเดียวกัน

ค่ำ                 บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหารให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น

วันที่สี่            ลานกิจกรรมหิมะ – เมืองโอตารุ – คลองโอตารุ – พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี – พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้ว – ดิวตี้ฟรี  ช้อปปิ้งทานุกิโคจิ –  เต็มอิ่มกับบุฟเฟ่ต์ขาปู 3 ชนิด

เช้า                บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางเข้าสู่ ลานกิจกรรมหิมะ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับ กิจกรรมหิมะให้เล่น เช่น สโนว์โมบิล และสโนสเลด หรือจะเลือกเล่นผาดโผนในสไตล์ท่านเอง (ไม่รวมค่าอุปกรณ์ และค่าเครื่องเล่น ประมาณ 5,000-15,000 เยน) ** ทั้งนี้การเล่นกิจกรรมหิมะต่างๆนั้น ขึ้นกับสภาพภูมิอากาศ และปริมาณความหนาของหิมะ ณ เวลานั้น**

เที่ยง              บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโอตารุ ซึ่งถือเป็นเมืองท่าที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก รวมถึงการตกแต่งของบ้านเรือนนั้น ส่วนใหญ่ได้ถูกออกแบบเป็นสไตล์ตะวันตกเนื่องจากในอดีต อิสระให้ท่านเดินชมความสวยงามของเมืองเลียบคลอง  โอตารุอันสวยงามน่าประทับใจ คลองโอตารุเป็นคลองที่เกิดขึ้นจากการถมทะเล สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1923 เพื่อเป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่สู่โกดังในเมือง ภายหลังเลิกใช้จึงถมคลองครึ่งหนึ่งเป็นถนนสำหรับนักท่องเที่ยวแทนโกดังต่างๆ ซึ่งเป็นอาคารอิฐสีแดงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ปรับปรุงเป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกนั่นเอง

จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ซึ่งมีอายุเกือบร้อยปี ท่านสามารถชมกล่องดนตรีในรูปแบบต่างๆ สวยงามมากมายที่ถูกสะสมมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถเลือกคิดแบบทำกล่องดนตรีในสไตล์ของตัวเองขึ้นมาเป็นที่ระลึกหรือเป็นของฝากให้คนรักได้อีกด้วย

นอกจากนี้ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ยังมี “นาฬิกาไอน้ำโบราณ” สไตล์อังกฤษ ที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่เมือง Vancouver มอบให้แก่เมือง Otaru นาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำประกอบกับมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนหนึ่งที่ประเทศแคนนาดา ถ้ามาฮอกไกโดแล้วไม่มาชม ต้องไปชมที่แคนนาดากันนะจ๊ะ

อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อ เลือกชมสินค้ามากมาย กับถนนซาไกมาชิ  โดยด้านขวามือก็ต้องสะดุดตา สะดุดใจ ไปกับความน่ารักของเจ้าแมวน้อยคิตตี้ ที่ท้าทายรอให้ทุกๆท่านเข้าไปเยี่ยมชม ผ่านมาแล้วจะผ่านเลยไปได้อย่างไรกัน แวะชมกันสักหน่อยสิค่ะ เมื่อเข้าไปในร้านทุกท่านสามารถเลือกแก้วเป็นลวดลายตามใจชอบแต่ละท่านได้เลยนะจ๊ะ ซึ่งข้างหลังแก้วจะมีการสกรีนคำว่า otaru ติดไว้ด้วยนะคะ ซึ่งแก้วก็จะมีมากมายหลากหลายแบบให้เลือก ราคาก็จะแตกต่างกันออกไป เมื่อซื้อแก้วพร้อมเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วสามารถเติมเครื่องดื่มฟรีได้อีกรอบด้วยนะคะ เลือกเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว เชิญเลือกที่นั่งตามอัธยาศัยที่บริเวณชั้นสองได้เลยจ้า หรือถ้าใครไม่อยากนั่งบริเวณชั้นหนึ่งจะเป็นโซนขายของที่ระลึก หรือจะสนุกสนานไปกับการหมุนตู้กาชาปองเสี่ยงทายหาของฝากไปฝากคนที่คุณรักก็ตามแต่สะดวกเลยค่ะ

ออกจากร้านคาเฟ่คิตตี้ไม่ทันไร ก็จะเจอร้านถัดมาที่เรียกกันว่า มาฮอกไกโด ทั้งทีต้องไม่พลาด LETAO กันนะจ๊ะ เป็นค่าเฟ่ให้นั่งทานและสามารถสั่งกลับได้  ซึ่งบางวันอาจจะต้องรอคิวกันสักนิดนึง  สิ่งต้องห้ามก็คือ ห้ามพลาดที่จะลิ้มรส และห้ามพลาดที่จะหิ้วกลับมาเป็นของฝากบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งโดยเด็ดขาด LETAO ที่ควรค่าแก่การทานคือชีสเค้กนั่นเอง สัมผัสลิ้นที่นุ่มละมุน กลิ่นหอมหวาน ให้รสชาติหวานพอดี ลิ้มรสพร้อมกับจิบชาและชมบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ไม่มีอะไรจะฟินไปยิ่งกว่านี้แล้วววว

มากันที่ร้านแนะนำร้านสุดท้ายกันค่ะ ร้านนี้ก็คือ คาเฟ่สนูปปี้ เอาใจคนรักสนูปปี้ ซึ่งจุดเด่นของร้านนี้ก็คือไอศกรีมนั่นเองค่ะ ซึ่งมีหลากหลายรสชาติให้เลือกชิม เป็นซอฟท์ครีมเนื้อนุ่มละมุน ภายในร้านแบ่งเป็นสองชั้น ซึ่งชั้นที่สองจะเป็นโซนร้านอาหาร การตกแต่งร้านก็ไม่พลาดที่จะตกแต่งไปด้วยสนูปปี้ทั้งร้านแน่นอนค่ะ นอกจากอาหาร ของหวาน เครื่องดื่มแล้ว ทางร้านยังจำหน่ายของที่ระลึกเกี่ยวกับสนูปปี้เพื่อเอาใจคนรักสนูปปี้กันด้วยค่ะ มีให้ท่านได้เลือกซื้ออย่างมากมาย

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าเครื่องสำอางค์ อาหารเสริม เครื่องประดับคุณภาพดีที่ร้านค้าปลอดภาษี DUTY FREE สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางแบรนด์ดัง ทั้งของต่างประเทศและแบรนด์ดังของญี่ปุ่น หรือว่าจะเป็นอาหารเสริมคุณภาพดีซึ่งไม่วามารถหาซื้อจากที่ไหนได้ นอกจากร้านค้าปลอดภาษีเท่านั้น อิสระให้ท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย   จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งสินค้าเครื่องสำอางค์ อาหารเสริม เครื่องประดับคุณภาพดีที่ร้านค้าปลอดภาษี DUTY FREE สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางแบรนด์ดัง ทั้งของต่างประเทศและแบรนด์ดังของญี่ปุ่น หรือว่าจะเป็นอาหารเสริมคุณภาพดีซึ่งไม่วามารถหาซื้อจากที่ไหนได้ นอกจากร้านค้าปลอดภาษีเท่านั้น และนำท่านช้อปปิ้งที่ ทานุกิโคจิ เป็นแหล่งช้อปปิ้งอาเขตบนถนนคนเดินที่มีหลังคามุงบังแดดบังฝนและหิมะ  มีความยาว 7 บล็อกถนน มีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่กว่า 200 ร้านค้า Susukin  มีร้าน BIG CAMERA จำหน่ายกล้องดิจิตอล, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์,ร้าน100เยน, ร้านUNIQLO ขายเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่น,ร้าน MATSUMOTO KIYOSHI ขายยาและเครื่องสำอาง

ค่ำ                บริการอาหารค่ำ  ณ ภัตตาคาร พิเศษกับเมนู บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างปู 3 ชนิด และอาหารทะเลนานาชนิด อาทิเช่น ปูซูไว ปูขน ปูทาราบะ หอยเชลล์ หอยนางรม กุ้งทะเล ซาชิมิสดๆ และซูชิหน้าต่างๆ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกฮอล์และซอฟท์ดริ้งค์ให้ท่านอิ่มอร่อยกันแบบเต็มที่ไม่อั้น

พักที่              โรงแรม THE B SAPPORO SUSUKINO หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า           อุทยานโมอาย – นมัสการพระใหญ่อะตะมะ ไดบุตสึ – ตลาดปลาซัปโปโรโจไก – ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด – สวนโอโดริ – หอนาฬิกาซัปโปโร – มิตซุยเอ้าท์เล็ท

เช้า                บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านชม อุทยานโมอาย ที่ออกแบบโดย Tadao anda สถาปนิกชื่อดังของโลก ก่อสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1982 ไอเดียคล้ายวัฒนธรรมจากโมอายและอียิปต์ ออกแบบรูปร่างตั้งให้อยู่ในภูเขาของดอกลาเวนเดอร์ พระพุทธรูปเป็นแนวคิดโครงสร้างจากการเรียงลำดับของจิตวิญญาณ องค์พระมีชื่อว่า Atama Daibutsu เปิดให้เข้าชมอย่างเป็น ทางการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2559 ที่ผ่านมา

อุทยานโมอาย มีพื้นที่ประมาณ 540,000 ตารางเมตร มี 40,000 กลุ่มของที่บรรจุอัฐิและรองรับได้ 70,000 กลุ่ม (ชาวญี่ปุ่นไม่มีการฝังศพ ใช้การเผา และจะซื้อที่ดินใว้เก็บ”อัฐิ”เก็บแบบทั้งตระกูลรวมไว้) โมอายแห่งญี่ปุ่น เป็นชื่อที่ผู้คนเรียกขาน เป็นหนึ่งในสุสานที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด

จากนั้นนำท่านสู่ ตลาดซัปโปโรโจไง ประกอบด้วยร้านค้า และร้านอาหารกว่า 80 ร้าน เรียงรายตลอดบล็อกขึ้นไปนอกตลาดขายส่งซัปโปโร เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ร้านค้าต่างๆจำหน่ายอาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่ เช่น ปู หอยเม่นทะเล ไข่ปลาแซลมอน ปลาหมึก และหอยเชลล์ ผลผลิตอื่นๆในท้องถิ่น เช่น ข้าวโพด แตงโม และมันฝรั่งตามฤดูกาล อาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อคือ อาหารทะเลสดๆเสิร์ฟพร้อมข้าว เรียกว่า donburi

เที่ยง              เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาอิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ ตลาดปลาซัปโปโรโจไง ให้ท่านได้เลือกทานอาหารได้ตามใจชอบในแบบของท่านไม่ว่าจะเป็นปูทาราบะ ปูซูไซ หรือจะเลือกทานเป็นซูชิ ซาซิมิ ข้าวหน้าปลาดิบ รับรองว่าสด สะอาด ถูกใจทุกท่านที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นแน่นอน

ขึ้นชื่อว่าตลาดปลา ไม่ได้มีแต่ปลาสดนะจ๊ะ นอกจากจะมีปลาสด ปูทาราบะ ปูขน ปูซูไว อาหารทะเลนานาชนิดแล้ว และยังมีผลไม้ตามฤดูกาลอีกด้วย ที่ตลาดปลาแห่งนี้ยังมีร้านอาหารสำหรับนั่งทานให้ท่านได้เลือกทานตามอัธยาศัยมากมาย อาหารที่แนะนำก็คือ ซาซิมิ ข้าวหน้าปลาดิบ จนถึงหน้าปลาย่าง ซึ่งมีเมนูน่าทาน น่าสนใจ ราคาย่อมเยาว์มากมาย

จากนั้นนำท่านชม  ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2416 เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกาที่ใช้อิฐมากกว่า 2.5 ล้านก้อนเป็นอิฐที่ทำมาจากหมู่บ้านซิโรอิชิและโทโยชิร่า ตึกนี้ผ่านการใช้งาน มายาวนานกว่า 80 ปีแต่ความงดงามที่เห็นนั้นได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่หลังจากถูกไฟไหม้เมื่อปี พ.ศ. 2454 แต่ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของชาติเมื่อปีพ.ศ. 2512

นำท่านผ่านชม หอนาฬิกาซัปโปโร เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่และเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองซัปโปโรอีกแห่งหนึ่ง สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2421 เดิมทีเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัย ฮอกไกโด แต่ได้ปรับเปลี่ยนสร้างเป็นหอนาฬิกาและมีระฆังตีบอกเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2424 จนถึงปัจจุบันก็ยังสามารถบอกเวลาได้อยู่ และด้วยความเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองซัปโปโรมานานจึงได้รับการขึ้นทะเบียน ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

นำท่านผ่านชม สวนโอโดริ สวนสวยใจกลางเมืองที่ทอดตัวยาวจากตะวันออกไปตะวันตกโดยมีความยาว 1,400 เมตร คนส่วนใหญ่ใช้เวลามาพักผ่อนหย่อนใจ สวนโอโดริเป็นที่รู้จักในฐานะสวนสาธารณะแต่ที่จริงแล้วเป็นถนนโดยในปีค.ศ.1871 (ปีเมจิที่ 4) มีการสร้างแนวกันไฟที่แยกใจกลางเมืองซัปโปโรออกเป็นฝั่งเหนือใต้ซึ่งต่อมาได้ชื่อว่าถนนชิริเบชิและถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นโอโดริ สถานที่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจแบบสบายๆ ในยามปกติ และยังเป็นที่จัดงานเทศกาลขึ้นชื่อของฮอกไกโดอีกด้วย  สามารถที่จะสนุกสนานเพลิดเพลินได้ตลอดทุกฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิมีเทศกาลดอกไลแล็ค ฤดูร้อนมีเทศกาล YOSAKOI โซรันและเบียร์การ์เด้น ฤดูใบไม้ร่วงมีเทศกาลออทั่มเฟสซึ่งรวบรวมเอาอาหารของฮอกไกโดมาไว้ และในฤดูหนาวมีเทศกาลหิมะซึ่งพัฒนามาเป็นเทศกาลระดับโลก

จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งที่มิตซุย เอ้าท์เล็ต (MITSUI OUTLET) ศูนย์รวมแฟชั่นทันสมัยแหล่งรวมพลของสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังจากทั่วโลกประกอบด้วยแบรนด์ดังถึง 128 แบรนด์ อาทิเช่น Coach Armani, Ralph Lauren, Seigo เพียบพร้อมด้วยสินค้าสำหรับทุกคนตั้งแต่สินค้าแฟชั่นหญิงชาย และเด็ก จนถึงอุปกรณ์กีฬา และสินค้าทั่วไป นอกจากนี้ภายในห้าง ยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ที่จุได้ 650 ที่นั่ง และมี Hokkaido Roko Farm Bridge ซี่งเป็นพื้นที่ที่มีสินค้าท้องถิ่นและสินค้าจากฟาร์มสดมาขายอีกด้วย

ค่ำ                 เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย

พักที่              โรงแรม THE B SAPPORO SUSUKINO หรือระดับเดียวกัน

วันที่หก           สนามบินชิโตเสะ – กรุงเทพ ฯ   

เช้า                บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม   นำทุกท่านเดินทางสู่ สนามบินชิโตเสะ เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

10.00 น.         นำทุกท่านเหินฟ้ากลับสู่ประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG671

บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

15.50 น.         เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ…

Reviews

There are no reviews yet.

Be the first to review “Japan Hokkaido”

Your email address will not be published. Required fields are marked *